โยเกิร์ต เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่ประกอบด้วยเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์หลายชนิด เชื้อจุลินทรีย์ตัวสำคัญคือ แลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) ซึ่งมีประโยชน์ต่อลำไส้เพราะช่วยในการขับถ่าย โยเกิร์ต เป็นแหล่งของโปรตีน และ แคลเซียมชั้นดี นอกจากนี้จากการศึกษาพบว่าเชื้อจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตสามารถกำจัดคลอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
โยเกิร์ต ที่ขายอยู่ในท้องตลาดอาจมีสารเคมีปนเปื้อน เช่น สารกันบูด และต้องถูกนำไปผ่านความร้อนหลัง (พาสเจอไรซ์) ซึ่งความร้อนในการทำพาสเจอไรซ์นั้นจะทำลายจุลินทรีย์บางส่วน และ ทำให้คุณค่าทางอาหารของ โยเกิร์ต ลดลง
ดังนั้น เพื่อให้ โยเกิร์ต มีประโยชน์จริงๆ ชาวต่างชาติจึงนิยมทำ โยเกิร์ต ไว้ทานเอง ซึ่งก็มีวิธีทำแสนง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย
สิ่งที่ต้องใช้:
- นมสด (full cream) รสจืด 1 ลิตร
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ ถ้าแช่เย็นมาควรตั้งทิ้งไว้ให้ได้อุณหภูมิห้องก่อนนำไปใช้ (ใช้ทำหัวเชื้อโยเกิร์ตในการทำครั้งแรก)
- ผ้าหนาๆ สะอาด
- ไม้ตีผสม
- หม้อต้มแบบปิดฝาได้
- ภาชนะมีฝาปิด
วิธีทำ:
1) เทนมสดลงในหม้อนำไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ ค่อยคนอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ติดก้นหม้อ

2) พอนมเริ่มเดือดเป็นฟองปุดๆ ปิดไฟ แล้วตั้งไว้ให้นมคลายความร้อนลงจนเหลืออุณหภูมิประมาณ 45 องศา ใช้มือแตะจะรู้สึกอุ่น
3) เมื่อได้อุณหภูมิที่ต้องการ ใส่โยเกิร์ตที่เราเตรียมไว้เป็นหัวเชื้อลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน

4) ปิดฝาหม้อ เอาผ้าคลุม แล้วนำหม้อไปตั้งไว้ในที่มิดชิด ไม่มีลมผ่านประมาณ 6-8 ชั่วโมง (อาจใช้เวลาน้อยหรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละสถานที่)

5) เมื่อครบเวลา โยเกิร์ต จะเริ่มจับตัวเป็นครีมข้น ให้เราใช้ไม้ตีผสมตี โยเกิร์ต ให้เป็นเนื้อเนียน

6) ให้ตักส่วนหนึ่งใส่ภาชนะมีฝาปิดเก็บไว้เป็นหัวเชื้อสำหรับการทำครั้งต่อไป ส่วนที่เหลือให้นำไปใส่ภาชนะมีฝาปิดนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อเอาไว้ทาน (**หมายเหตุ: ถ้าหลังจากใช้หัวเชื้อหลายๆ ครั้งแล้ว โยเกิร์ต เริ่มมีรสชาติเปลี่ยนไปไปในทางที่ไม่ดี ให้เราทิ้งหัวเชื้อนั้นแล้วเริ่มทำใหม่แต่ต้น เพราะว่าหัวเชื้อที่เรามีอาจถูกแบคทีเรียอื่นๆ ที่ไม่ใช่แลคโตบาซิลัสปนเปื้อน**)

****ในตอนต่อๆ ไป Food Story จะนำสูตรที่เราสามารถใช้ โยเกิร์ต ที่เราทำเองนี้มาฝากนะ****